Bittorrent

BitTorrent,tracker,torrent,hdd,seed,bitcomet,utorrent, connectable,bit,torrent,bit,bitcomet,p2p,file sharing,share,download,upload,speed,trackers,leecher,mininova,

Thursday, November 09, 2006

[Xdiv/DivX, HDTV]

เพื่อนๆหลายคนคงสงสัยว่าช่วงนี้เริ่มมีไฟล์หนังแปลกๆประเภท HDTV หรือ HD-DVD ซึ่งคมชัดกว่า DVD9 หลายคนก็คงจะรู้แล้วก็ผ่านไปนะครับ สำหรับคนที่ไม่รู้ เรามาทำความรู้จักมันกันดีกว่านะครับ
ไฟล์ HDTV คือ codec 1 ใน 3 ของมาตรฐานดีวีดีในยุคต่อไป เช่น HD-DVD หรือ Blue-Ray Disc (ดีวีดีปัจจุบันใช้ MPEG-2 codec)หรือ Gadget รุ่นใหม่ๆอย่างเช่น PSP และ iPod Video ต่างก็สนับสนุน H.264 เป็น codec มาตรฐานด้วยเช่นกัน
การเล่น Hi-Def หรือ ไฟล์วีดีโอคุณภาพสูงบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นใช้สเปคเครื่องที่ค่อนข้างสูง สเป็คโดยอย่างต่ำที่ควรจะเป็นก็คือ CPU 2.0 GHz ขึ้นไป Ram 1 GB หรือมากกว่า Display Card ที่แสดงสีได้ 16.7 ล้านสี
ซื่งสเป็คดังกล่าวก็ไม่ใช่จะเล่นได้ดีนะครับ อยู่ในระดับที่พอเล่นได้เท่านั้นแถมมีการกระตุกอีกต่างหาก เมื่อเจอไฟล์ Hi-def ที่มีบิทเรทสูงๆ
แล้วเราๆท่านๆทั้งหลายจะทำไงให้ดูไอ้ไฟล์ HDTV นี่ได้ล่ะ ก็มีอยู่ 2 ทางคือ ซื้อเครื่องเล่น DVD ที่สามารถเล่นแผ่น HDTV ได้ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไร่ แต่ราคาคงจะสูงพอควร และอีกทางคือใช้เจ้าเครื่อง PC เครื่องเล่นต้องอ่านไฟล์ HDTV ได้ด้วยครับ ถึงจะเล่นได้
พวก XviD HD WMVHD เห็นมีขายแล้วที่พันทิพย์
ส่วน x264 นี่ยังไม่เห็นมีขายเลยนะครับ ต้องไปซื้อเครื่องเล่นแบบ ส่งสัญญาณผ่าน wireless lan ที่ ฟอร์จูน น่ะท่าน 15000 แก่ๆ ครับ

สำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นสำหรับกับ HDTV นะครับ ถ้าเป็นการซื้อเครื่องใหม่
CPU ในตอนนี้ไม่ควรจะต่ำกว่า 3 GHz จะเป็น AMD หรือ Intel แล้วแต่ชอบครับ
Mainboard ที่ใช้ PCI-E เป็น Display card ซึ่งในช่วง 2-3 ปีนี้ ผมคิดว่า PCI-E ยังคงอยู่แน่นอน AGP ก็ยังใช้ได้ เพียงแต่อนาคตของ Display Card จะออกเป็น PCI-E เกือบทั้งหมดครับ
RAM ไม่ควรต่ำกว่า 1 GB ตอนนี้แรมไม่แพงมากครับ
HDD 7,200 รอบ ขนาดไม่ต่ำกว่า 120 GB
PSU ถ้าเป็นตระกูล GF 7800 GTX , x1800 XT , x1900 XT/XTX ตัวเดียว ควรจะใช้ power ประมาณ 450 watt ขึ้นไป
หรือว่าต่อสองตัวแบบ SLI หรือ CrossFire ก็ควรจะเป็น 550 watt ขึ้นไปครับ ( Recommend "Enermax")

ถ้ามีเครื่องเก่าอยู่แล้ว
เพิ่มแรมของเดิมให้เป็น 1 GB หรือมากกว่า
Display Card ของเดิมที่มีอยู่ถ้าเป็น nVidia ต้องเป็นตระกูล 6600 ขึ้นไป ถ้าเป็น ATI ก็ต้อง x1000 ขึ้นไป ถึงจะรองรับ H.264 Hardware decode ครับ
HDD ควรซื้ออีก 1 ตัว เพื่อเก็บไฟล์ Hi-def เนื่องจาก ไฟล์ HDTV ใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ 500 กว่า MB เปิดได้ 3 นาทีเอง

สรุปก็คือ นอกจาก Hardware จะถึงแล้ว Software ก็ต้องสนับสนุนด้วย โดยแบ่งเป็นเป็นสองค่าย
nVidia กับ PureVideo โดยการเล่นผ่าน Media Player 10 ,การ์ด Geforce 6600 ขึ้นไป
ATI กับ AVIVO โดยการเล่นผ่าน Media Player 10 เช่นกัน ,การ์ด Radeon x1000 ขึ้นไป

ในปีนี้กระแส Hi-def คงจะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ HD-DVD ที่ Microsoft ก็สนับสนุนเต็มตัว รวมไปถึง MS Vista
OS ตัวใหม่ของ MS ก็จะสนับสนุน HD-DVD ด้วยครับ
และอีกปัจจัยก็คือ จอภาพหรือมอนิเตอร์ครับ ซึ่งปัจจุบันทีวีจอใหญ่ๆแบบ HDTV ราคาก็เบาลงมาเยอะแล้ว หรือจะเป็นจอ LCD มอนิเตอร์ในปัจจุบัน ต่างก็ออกมารองรับ HDTV กันหมดทุกยี่ห้อแล้ว

ด้วยการต่อเข้ากับทีวีทำให้ออกทีวี ถ้า Display card อันนั้นมีคุณสมบัติ VIVO ( Video in,Video Out ) หรือมีแค่ Viedo Out อย่างเดียวก็ใช้ได้

สำหรับสัญญาณที่ออกได้นะครับ ก็จะมี Composite VDO , S-Video และ Component Video แต่ Component นี่อาจจะต้องเป็นการ์ดจอรุ่นสูงหน่อยถึงจะออกได้

แล้วก็จะมีอีกสองรูปแบบนึงก็คือ DVI -> Component Video แต่ต้องหาซื้อหัวแปลงเอาเอง ของ ATI ก็มีขาย
DVI -> HDMI สำหรับ TV ที่เป็น HDTV Ready

การเล่น HDTV มันเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินตัว เพียงแค่เราเปลี่ยน Display card รุ่นใหม่ๆ ที่ support H.264 hardware decode , เครื่อง PC ที่พวกเราใช้ๆกันอยู่ ก็จะกลายสภาพเป็นเครื่องที่รอการเล่น HD-DVD หรือ Blue-ray disc ที่จะออกมาเร็วๆนี้ (เหลือเพียงแค่รอไดรฟ์เหล่านี้บน PC ออกมาขาย)

ซึ่งถ้าเครื่องเล่น HD-DVD หรือ Blue-ray disc ออกมาในตอนแรกๆ จะต้องมีราคาสูงแน่นอน ผมประมาณว่าไม่น่ำจะต่ำกว่า 2-3 หมื่นบาท

อันนี้ลองวัดเปรียบเทียบกับราคาเครื่องเล่น DVD ที่ออกมาตอนแรกๆก็ราคาประมาณนี้

แต่การเล่น HDTV บน PC มีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าเครื่องเล่นธรรมดาก็คือ สามารถอัพเกรดเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ได้ตลอด เช่น ในตอนแรกไดรฟ์ HD-DVD อาจจะความเร็ว 2x พอไปอีกสักปีออก 8x มาเราก็เปลี่ยนให้ทันสมัยได้

อีกอย่างถึงตอนที่ไม่ได้ดูหนังก็อาจเอามาใช้ทำงาน เล่นเกม เพราะโดยส่วนมากพวกเราก็มันจะใช้คอมในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
ซึ่ง Dispaly card ในตอนนี้ก็จะมี 2 port เกือบทุกรุ่น เราก็จะต่อกับจอทีวีไว้ port นึง อีก port ก็ต่อกับจอคอมปกติ พอจะดูหนังก็ค่อยสั่งปล่อยสัญญาณภาพออกจอทีวี ส่วนจอคอมยังทำงานเล่นเนทต่อได้ หรือจะปล่อยออกทั้ง 2 จอพร้อมกันก็ได้ ตอนนี้ก็มีเมนบอร์ดอยู่ยี่ห้อน่าสนใจมากแต่ยังไม่ได้ลอง เห็นว่ามีช่องต่อออก HDTV ได้เลย คือ
Asrock775Twins-HDTV (มี ATIx300 VGA on board) ราคา 2,540 บาท

HDTV ย่อมาจากคำว่า High Definiton Television แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "โทรทัศน์ความคมชัดสูง หรือ โทรทัศน์รายละเอียดสูง" ซึ่ง HDTV เป็นรูปแบบของระบบ Digital ที่ดีกว่าโทรทัศน์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบ Analog ( HDTV มีความคมชัดมากถึงระดับ 1,050 เส้น ขณะที่โทรทัศน์ธรรมดามีเพียงแค่ 550 เส้น)

ดังนั้น HDTV จึงเป็นโทรทัศน์มีคุณภาพทั้งภาพและเสียงสูงกว่าโทรทัศน์ทั่วไป มีระดับความคมชัดสูงสุด ระบบเสียงเป็นแบบรอบทิศทาง
เหมือนกับการรับชมภาพจากจอภาพยนตร์ ที่ผู้ชมจะได้รับชมภาพที่สมจริงมากยิ่งขึ้น

HDTV [High Definition television] เป็นพัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของโทรทัศน์ระบบดิจิตอล DTV [Digital Television] สัญญาณที่ส่งมาจะเป็นสัญญาณดิจิตอล โดยระบบการส่งสัญญาณระบบดาวเทียม ( SATELLITE )

หลักทำงานของ HDTV แยกเป็น 2 ส่วน คือ กระบวนการเกิดภาพ และกระบวนการเกิดเสียง

กระบวนการเกิดภาพ

สัญญาณดิจิตอลที่ถูกส่งเข้าเครื่องรับโทรทัศน์จะผ่านกระบวนการบีบอัดข้อมูลสัญญาณดิจิตอล โดยใช้ MPEG-2 ซึ่งเป็น Compression software ถอดรหัสเป็น CARD แสดงผลสัญญาณภาพ และจะถูกส่งไปยังหลอดภาพที่ ทำหน้าที่ยิงลำแสงออกมาด้วยความถี่ที่เพิ่มมากขึ้นมายังจอโทรทัศน์ที่มีความกว้าง( อัตราส่วนของจอภาพ 16:9 ) ขึ้นจึงทำให้เกิดจุดภาพ [ PIXEL] บนจอโทรทัศน์มากขึ้น ภาพที่ได้จึงมีความละเอียด คมชัดต่อเนื่อง ไร้อาการกระพริบของสัญญาณภาพ โดยลักษณะการยิงลำแสง (หรือเรียกว่า การเขียนภาพบนจอโทรทัศน์) มี 2 รูปแบบคือ

# 1080i - 1920x1080 pixels interlaced
# 720p - 1280x720 pixels progressive

- Interlaced การยิงลำแสงไปยังจอภาพ โดยการ scan ลำแสงให้เป็นเส้น เริ่มจากด้านบน จากซ้ายมาขวา ลักษณะเป็นเส้นเว้นเส้น มาจนสุดจอด้านล่าง [ เรียกว่า 1 field ] ดังนั้นการที่จะเกิดภาพบนจอนั้นจะต้อง scan อีกครั้งหนึ่งให้เส้นภาพครบ เป็น 1 กรอบภาพ [ 2 fields = 1 frame ] การ scan รูปแบบนี้มีจำนวนเส้นถึง 1080 เส้นใน 1 จอภาพ
- Progressive คือ การยิงลำแสงไปยังจอภาพ โดยการ scan ลำแสงให้เป็นเส้น จากด้านบนจอ จากซ้ายไปขวา จนสุดด้านล่างของจอ เพียงรอบเดียว ก็เกิดภาพบนจอโทรทัศน์ [ 1 field = 1 frame] การ scan รูปแบบนี้มีจำนวนเส้น 720 เส้นใน 1 จอภาพ สีที่เราเห็นบนจอภาพนั้น เกิดจากที่จอภาพ มีสารเรืองแสง ( PHOSPHOR SCREEN ) ฉาบอยู่ มี 3 สี คือ สีน้ำเงิน,สีเขียว และสีแดง ดังนั้นเมื่อลำแสงมาตกกระทบยังจุดที่ฉาบไว้ด้วยสารเรืองแสง ก็จะเกิดภาพเป็นสีต่างๆ ขึ้น

กระบวนการเกิดเสียง HDTV ใช้ระบบ DOLBY DIGITAL(AC-3) channel 5.1 ซึ่งเป็นระบบเสียงแบบรอบทิศทาง ที่ใช้กันอยู่ในโรงภาพยนตร์ชั้นนำทั่วไป

ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.htg2.net
http://www.htg2.net/index.php?PHPSESSID=61...8bce&topic=26.0

ขอบคุณความรู้ดีๆ จาก คุณ DarkVaDer แห่งไทยดีวีดี ด้วยครับ
หากข้อมูลถูกผิดประการใด ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะครับ แล้วช่วยชี้แจงเพิ่มเติมให้ถูกต้องด้วยครับ

oKKKo

Web statistics

0 Comments:

Post a Comment

<< Home

 
Google
 
Web thaibit.blogspot.com